ปัจจุบันไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราจะพบเห็นเทคโนโลยีมากมายที่สามารถเชื่อมทุกคนบนโลกเข้าหากันได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว แทบทุกธุรกิจต้องปรับตัวไปตามยุคสมัยเพื่อที่จะอยู่รอดในยุคดิจิทัลนี้ โดยเฉพาะธุรกิจค้าขาย รวมถึงการค้าขายเครื่องสำอางและสินค้าความงามต่างๆในสมัยก่อนการจะขายสินค้าได้แต่ละครั้ง เจ้าของแบรนด์ที่อยากสร้างแบรนด์ครีมเป็นต้องนำสินค้าของตัวเองออกไปขายหรือไปวางไว้บนชั้นขายของของห้างร้านต่างๆ ทำให้มีต้นทุนการขายที่สูง แต่ปัจจุบันการของขายนั้นง่ายมาก การขายของแบบไม่ต้องมีหน้าร้านสามารถเป็นไปได้ ต้นทุนการขายก็ลดลง แถมยังเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า ทั้งหมดนี้เราสามารถทำได้โดยการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือที่เรียกกันว่า “Online marketplace”
เชื่อว่าใครหลายๆคนก็คงคุ้นเคยกับคำนี้ไม่น้อย แต่อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดว่า Online marketplace จริงๆแล้วคืออะไร มีอะไรบ้าง แล้วจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจริงไหม วันนี้ Cosmania จะพาไปไขข้อสงสัยนี้กันค่ะ
Online marketplace คืออะไร?
Online marketplace คือแพลตฟอร์มตัวกลางสำหรับการซื้อขายบนโลกออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้ผู้ขายและลูกค้าได้มาพบเจอกัน พูดให้เห็นภาพก็เหมือนกับห้างสรรพสินค้าที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง เพียงแต่ว่าลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินทางออกไปซื้อของด้วยตัวเอง ไม่ว่าต้องการสินค้าอะไร สินค้าแบบไหน ก็สามารถเลือกดูสินค้า เปรียบเทียบราคา แล้วสั่งซื้อได้ง่ายๆบนแพลตฟอร์ม จากนั้นก็รอรับอยู่ที่บ้านได้เลย ส่วนผู้ขายก็มีหน้าที่ที่ต้องจัดเตรียมส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดย Online marketplace ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันดีก็จะมี Shoppee, Lazada,Amazon, Ebay, JD.com เพราะฉะนั้นเหล่านักขายในยุคดิจิทัลจะพลาดไม่ได้เลยกับการขายสินค้าบนร้านค้าออนไลน์แห่งนี้ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงร้านค้าของเราได้มากขึ้นแล้วยังสามารถช่วยเพิ่มยอดขายสร้างกำไรให้กับธุรกิจของเราอีกด้วย
ชี้เป้า 3 Online Marketplace ยอดฮิตสำหรับร้านค้าเครื่องสำอาง
1.Lazada
รูปภาพจาก : MOST 2414
แพลตฟอร์มยอดฮิตที่เป็นผู้นำอันดับ 1 ของ Online marketplace ในเอเชีย ที่มีสินค้ามากมาย รวมถึงเครื่องสำอางสกินและแคร์ต่างๆ โดยเน้นย้ำในการให้ความสำคัญทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ด้วยการมีระบบการขนและ payment ที่แข็งแกร่ง มีการจัดโปรโมทชั่นในทุกๆเดือน อีกทั้ง Lazada ยังมีเคมเปญที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพร้านค้าและผู้ประกอบการ SME ไทยบนแพลตฟอร์ม ด้วยการจัดทำคอร์สพัฒนาทักษะการขายออนไลน์ การวิเคราะห์การวางแผนธุรกิจด้วยระบบ Data Dashboard แบบเรียลไทม์ รวมทั้งเครื่องมือโปรโมตร้านค้าผ่านลาซาด้า Sponsored Discovery ที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับร้านค้าบนแพลตฟอร์ม เรียกได้ว่าช่วยผลักดันการค้าขายของเจ้าของแบรนด์จากเริ่มต้นไปจนสามารถสร้างยอดขายให้ทะลุเป้าได้เลยค่ะ
2. Shopee
รูปภาพจาก: Shopee.co.th
เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่ฮิตไม่แพ้กันสำหรับนักช้อปที่ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานในประเทศไทยมากกว่า 30 ล้านคน ทั้ง Shopee เองยังมีนโยบายที่จะเสริมสร้าง Ecosystem กับพาร์ทเนอร์ร้านค้าให้แข็งแกร่ง โดยมีเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขาย สามารถทำให้ผู้ขายสามารถบริหารจัดการร้านค้าได้ครบจบในแพลตฟอร์มเดียว แถมยังมีบริการขนส่ง (Shipping) ที่ผู้ขายสามารถปริ้นใบปะหน้าพัสดุได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องจ่าหน้าซองเอง นอกจากนี้ Shopee ยังมีการจัดโปรโมชั่นมากมายที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอย มีช่องทางการชำระเงินหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกชำระตามความสะดวก รับรองเลยว่าหากเจ้าของแบรนด์ลงขายสินค้าบนแพลตฟอร์มนี้ โอกาสในการที่ลูกค้าจะมาพบเจอสินค้าและกดสั่งซื้อจะเพิ่มมากขึ้นกว่าการขายอยู่แค่บนพื้นที่ของตัวเองแน่นอน
3. Konvy
ถ้าใครที่กำลังอยากสร้างแบรนด์ แล้วกำลังมองหาแพลตฟอร์มสำหรับวางขายเครื่องสำอางเพื่อให้แบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จัก Konvey คือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการนี้มากๆค่ะ เพราะ Konvey เป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในเรื่องเครื่องสำอาง ที่ช่วยดูแลพาร์ทเนอร์ในทุกๆมิติ ตั้งแต่ช่วยสร้างกลยุทธ์การตลาด เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกลุ่ม พร้อมทั้งแนะนำพาร์ทเนอร์ในทำการตลาดที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังแนะนำการวางตำแหน่งหรือจุดขายของแบรนด์ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกมาปรับใช้กับแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ๆ ซึ่งทำให้การเปิดตัวแบรนด์สามารถสร้างการรับรู้ได้เป็นจำนวนมาก พร้อมกับกลุ่มลูกค้าที่จะตามมาอย่างมหาศาลนั่นเองค่ะ
ถ้ายังไงลังเลไม่รู้ว่าเราควรลงขายสินค้าที่ไหนดี งั้นเรามาทำการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละแพลตฟอร์มกันค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะกับการทำความรู้จักกับ Online marketplace ทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้ แต่ละแพลตฟอร์มก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสินค้าและความต้องการของผู้ขาย ทั้งนี้ การวางขายสินค้าบน Online maketplace จะทำให้การขายสินค้าของเจ้าของแบรนด์เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดเข้าชมและยอดขาย ขอบอกเลยว่าในยุคนี้ใครที่กำลังจะสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองจะมองข้ามการขายในช่องทางนี้ไปไม่ได้เลยค่ะ
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ นอกจากทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้ ยังมี online marketplace อีกมากมายที่น่าสนใจรวมถึงช่องทางการขายอื่นๆที่จะช่วยส่งเสริมการขายให้กับเจ้าของแบรนด์ให้ยอดขายเป๊ะปังทะลุเป้า ซึ่งในครั้งหน้า Cosmania จะมาแนะนำเทคนิคการขายเรื่องไหน ต้องรอติดตามกันนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.amarintv.com/spotlight/insight/detail/24463
