ขายสินค้าไปต่างประเทศง่ายๆ มีคนมารับถึงหน้าบ้าน
จัดการเรื่องภาษีให้หมด ผ่าน Shopee SIP Program
วงการ E-commerce แหล่งรวมร้านค้าออนไลน์ ที่ซื้อง่ายขายคล่องเพียงแค่คลิ๊กบนหน้าจอก็รอรับของหน้าบ้านได้เลย ตอนนี้ได้ล้ำหน้าไปอีกขั้นแล้วกับการขายสินค้ ที่ไม่ได้แค่ขายให้กับผู้ซื้อในประเทศเท่านั้น แต่ยังสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าต่างประเทศได้แถมยังมีระบบดูแลการบริหารจัดการสินค้า ดูแลสต๊อก แชทกับผู้ซื้อจากต่างประเทศ โดยที่เจ้าของร้านค้าไม่จำเป็นต้องลงมือทำเองอีกด้วย! ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึง โปรแกรม Shopee International Platform (SIP) จาก Shopee แพลตฟอร์มซื้อขายยอดฮิตในประเทศไทย หนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีร้านค้าแบรนด์เครื่องสำอางมากมายวางขายให้ลูกค้าเลือกซื้อ
วันนี้ Cosmania จึงอยากจะแนะนำโปรแกรมดีๆที่มีประโยชน์กับธุรกิจของเจ้าของแบรนด์ เรามาดูกันเลยว่าเจ้าโปรแกรม SIP นี้คืออะไร มีดียังไง และจะเพิ่มโอกาสในการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้โกอินเตอร์ไปต่างประเทศได้ยังไง
ทำความรู้จัก SIP โปรแกรมที่จะพาสินค้าไทยโกอินเตอร์สู่ต่างประเทศ
โปรแกรม Shopee International Platform (SIP) คือ โปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ขายสามารถขายสินค้าให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ โดย Shopee เองก็จะเป็นผู้ดูแลการขายให้ตั้งแต่ต้นจนจบ อย่าง การตั้งราคา ดูแลสต๊อก จัดการร้านค้า การติดต่อกับลูกค้า และส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ สิ่งที่ผู้ขายต้องทำก็แค่จัดเตรียมสินค้าและแปะใบปะหน้าพัสดุ แล้วรอ Shoppe มารับที่หน้าบ้านของตัวเองได้เลย! บอกเลยค่ะว่าง่ายและสะดวกสบายสุดๆ จากนี้การส่งสินค้าออกไปขายต่างประเทศที่เคยเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับเจ้าของร้านค้ากลายเป็นเรื่องง่ายและไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นอีกต่อไป โดยคำสั่งซื้อจะมาจากลูกค้าในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เพื่อนบ้านของเรานั่นเอง
ส่งสินค้าออกนอกประเทศกับ Shopee International Platform (SIP) ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มไหม?
ต้องเฮกันดังๆเลยค่ะสำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ เพราะ การขายสินค้าใน Shopee International Platform (SIP) จะไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยร้านค้าจะมีค่าธรรมเนียมการให้บริการเหมือนการขายในประเทศ โดยสามารถศึกษารายละเอียดของค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของทาง Shopee โดยตรงได้เลย
โอกาสดีๆในการส่งสินค้าออกต่างประเทศที่ทั้งง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแบบนี้นี้มีหรือที่จะพลาด! เราจะพาทุกคนไปดูกันตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโปรแกรม ขั้นตอนการทำงาน และเงื่อนไขต่างๆที่เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องรู้ถ้าหากอยากสร้างแบรนด์ออกสู่ต่างประเทศผ่านการเข้าร่วมโปรแกรมนี้
อยากเข้าร่วมโปรแกรม SIP ต้องทำอย่างไร?
สำหรับร้านค้าที่อยากเข้าร่วม SIP ทาง Shopee ก็มีเกณฑ์ที่จะคัดเลือกร้านค้าเข้าร่วมโครงการด้วยนะคะ ถ้าหากว่าร้านค้าของเราไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ ก็มีสิทธิ์ที่จะถูกปฏิเสธหรือยุติการเข้าร่วมโครงการ SIP ได้ค่ะ
โดยร้านค้าที่ได้รับเลือกจะต้องมีเงื่อนตามเช็คลิสต์ด้านล่างนี้
- จะต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ภายในประเทศไทย
- จะต้องไม่ใช้บริการ Fulfillment by Shopee ในปัจจุบัน
- เป็นร้านค้าต้องที่มีสถานะปกติ และไม่อยู่ในโหมดพักร้อน
- มียอดขายต่อวัน เฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน มากกว่า 0.1 ออเดอร์ต่อวัน (ไม่รวมประเภทสินค้าที่ห้ามจำหน่ายในโปรแกรม)
- มีอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อ (Cancellation rate) เฉลี่ยย้อนหลัง 90 วัน ไม่เกิน 3%
- เปิดร้านค้าบน Shopee อย่างน้อย 30 วันร้านค้ามีการขายบน Shopee มาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน
- ร้านค้าจัดส่งด้วยช่องทางมาตรฐานของ Shopee
- ชื่อร้านและรายละเอียดสินค้าไม่มีคำที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า (Vape)
- ต้องไม่ใช่ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าประเภทตั๋วและบัตรกำนัล (Tickets and Vouchers)
และหลังจากที่ร้านค้าของเราได้รับการคัดเลือกให้ขายสินค้าผ่าน SIP ได้แล้ว จะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน Pop-up ในหน้า Seller Center ที่มีหน้าตาแบบนี้
รูปภาพจาก : Shopee
หากร้านค้ามีความประสงค์จะเข้าร่วม จะต้องกด ยอมรับ เพื่อเข้าร่วมโปรแกรม จากนั้น Shopee จะแจ้งการยืนยันเข้าร่วมโปรแกรมภายใน 3 สัปดาห์หลังจากลงทะเบียนผ่านช่องแชทจาก shopee_thsip_official.th
ขั้นตอนการขายสินค้าผ่านโปรแกรม SIP
- ร้านค้าตรวสอบคำสั่งซื้อจากต่างประเทศได้จากบัญชี thsip.buyer และแชทจากบัญชี SIP_[MY/SG/PH]_agent_[1-5] แนะนำว่าร้านค้าควรตอบข้อความที่ได้รับจากบัญชีดังกล่าว ภายใน 12 ชั่วโมงนะคะ เพื่อที่จะได้ให้บริการลูกค้าจากต่างประเทศได้อย่างดีและรวดเร็วที่สุด
รูปจาก : Shopee
- ร้านค้าทำการจัดส่งสินค้าตามปกติ ร้านค้าสามารถตรวจสอบคำสั่งซื้อจากโปรแกรม SIP ได้จากชื่อผู้ซื้อ thsip.buyer และที่อยู่จัดส่งเป็นที่อยู่ คลังสินค้าของ Shopee ตามรูปตัวอย่างด้านล่างนี้
รูปภาพจาก : Shopee
- คลิกพิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ
แค่ 3 ขั้นตอนง่ายๆเท่านี้ก็สามารถส่งสินค้าออกขายไปยังต่างประเทศได้แล้ว สะดวกสบายสุดๆเพราะ Shopee จะเป็นคนดูแลการขายสินค้าให้กับเราในเกือบทุกขั้นตอน ซึ่งในข้อดีเหล่านี้ก็มีข้อจำกัดสำหรับร้านค้าอยู่เช่นเดียวกันค่ะ
ข้อจำกัดสำหรับร้านค้าที่เข้าร่วม SIP
1.ร้านค้าจะไม่สามารถตั้งราคาสินค้าในโปรแกรม SIP เองได้
การตั้งราคาของสินค้านั้น ทีมงาน Shopee จะกำหนดราคาที่แสดงบนร้านค้าในต่างประเทศโดยคำนึงถึงสกุลเงินในประเทศนั้นๆ รวมถึงค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยร้านค้าไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศได้ และร้านค้าจะได้รับเงินเท่ากับการขายสินค้าในประเทศไทยค่ะ
2.ร้านค้าจะไม่สามารถติดต่อผู้ซื้อได้โดยตรง
ในกรณีปกติช้อปปี้จะทำหน้าที่ในการบริหารจัดการกับผู้ซื้อปลายทางให้ แต่ในบางกรณี ร้านค้าอาจมีความจำเป็นต้องติดต่อกับผู้ซื้อ ร้านค้าจะต้องกรอกแบบฟอร์ม และคำตอบจากผู้ซื้อจะถูกส่งผ่านการแชทผ่านบัญชีของ Shopee เท่านั้นค่ะ
3. ร้านค้าไม่สามารถเลือกสินค้าที่ลงขายในต่างประเทศได้
ช้อปปี้จะเป็นผู้คัดเลือกสินค้าที่ผ่านเกณฑ์การขายในต่างประเทศ จากรายการสินค้าทั้งหมดของร้านค้าเอง ทำให้ร้านค้าไม่สามารถเลือกได้ว่าต้องการขายสินค้าตัวไหน
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับโปรแกรม SIP นี้แล้ว บอกเลยว่าเป็นโปรแกรมที่เหมาะมากในการสร้างแบรนด์ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ จากที่การส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศดูเป็นเรื่องไกลตัว เป็นฝันที่ไม่กล้าฝัน ตอนนี้ Shopee ทำให้การส่งออกสินค้าเป็นจริงได้แล้วผ่านขั้นตอนง่ายๆไม่ซับซ้อน อยากสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศแต่มีงบน้อยก็สามารถทำได้! ง่ายและสะดวกสบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว